ปลูกผมผู้หญิง กลางหัว ได้ไหม มีวิธีใดบ้าง? เรียกได้ว่าคำถามดังกล่าวเป็นคำถามที่คุณผู้หญิงหลายคนสงสัยและต้องการคำตอบเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้ว แม้ภาวะหัวล้านตรงกลางมักแสดงออกในคุณผู้ชายมากกว่าเนื่องจากมีเพศชายมีฮอร์โมนที่เอื้อต่อการเกิดอาการศีรษะล้านรุนแรง แต่ก็ใช่ว่าคุณผู้หญิงจะไม่เกิดภาวะนี้ขึ้นเลย และในบางรายก็มีอาการที่แสดงชัดเจนพอ ๆ กับคุณผู้ชาย ส่งผลให้คุณผู้หญิงสูญเสียความมั่นใจอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนจะพยายามหาทางแก้ไข ซึ่งการปลูกผมก็เป็น 1 ในวิธีที่หลาย ๆ คนเลือก
ปลูกผมผู้หญิง กลางหัว ดีไหม เลือกวิธีไหนให้เหมาะกับตนเอง?
จากที่ได้กล่าวไปว่าหัวล้าน ผมบางบริเวณกลางหัวนั้นเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งมักก็จะสร้างความรำคาญใจ และสูญเสียความมั่นใจให้กับผู้ประสบปัญหาอยู่เสมอ โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงที่ทั่ว ๆ ไปจะมีความรักและหวงแหนเส้นผมเป็นอย่างมาก ดังนั้น คุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านจึงต้องการทราบและทำความรู้จักกับเทคนิคการปลูกผมของผู้หญิงให้มากขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม Vital Glow Clinic จึงพาคุณผู้หญิงทุกคนมาทำความรู้จักกับสาเหตุของอาการศีรษะล้านในเพศหญิงเสียก่อนว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่
ผู้หญิงหัวล้าน กลางศีรษะ เกิดจาก…
โดยทั่วไปแล้ว สาเหตุของการเกิดปัญหาศีรษะล้านกลางศีรษะในคุณผู้หญิงมักเกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนในร่างกายถึง 90 – 95% ฮอร์โมน Dihydrotestosterone (DHT) ซึ่งจะเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เนื่องจากเป็นกรรมพันธุ์ที่ถูกส่งต่อกันมาทางครอบครัวนั่นเอง
ทั้งนี้ นอกจากพันธุกรรมดังกล่าว อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนมีอาการหัวล้านกลางศีรษะ มักมาจากภาวะทางร่างกายโดยจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนหลังหมดประจำเดือน หรืออายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ยังมีพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนทำติดจนเป็นนิสัย หรือทำไปโดยไม่รู้ตัว เช่น การดึงผมแรง ๆ การทำสีผม เส้นผมโดนความร้อนจากอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม การใช้ยารักษาอาการเจ็บป่วยบางชนิด เป็นต้น ซึ่งแต่ละสาเหตุดังกล่าวก็จะมีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป และหากอยากจะรู้วิธีรักษาอย่างแน่ชัด ก็ต้องเข้าพบแพทย์เพื่อทราบแนวทางที่ถูกต้องที่สุด
อาการและระดับความรุนแรงของภาวะหัวล้านและผมบางกลางศีรษะในผู้หญิง
แม้จะดูไม่มีอาการแสดงที่หลากหลายหรือมากมายนัก แต่คุณผู้หญิงทราบหรือไม่ว่า หัวล้าน ผมบางกลางศีรษะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับด้วยกัน ดังนี้…
ระดับแรกเริ่ม: แรกเริ่มจะมีอาการผมร่วงผมบางที่เห็นได้ชัดบริเวณรอยแสกของเส้นผมแต่ยังไม่มีอาการรุนแรงมากนัก
ระดับกลาง: ผมร่วงผมบางมากขึ้นจนอาจเห็นหนังศีรษะ โดยเฉพาะในบริเวณกลางศีรษะ
ระดับรุนแรง: ผมร่วงผมบางหนักมากจนเห็นหนังศีรษะชัดเจน บริเวณหนังศีรษะที่ล้านเริ่มขยายออกด้านข้างโดยรอบทั่วบริเวณศีรษะ ไม่ใช่เพียงตรงกลางเท่านั้น
ปลูกผมผู้หญิง คืออะไร ทำไมวิธีนี้จึงช่วยได้?
การปลูกผมสำหรับผู้หญิง หรือ Female Hair Transplant คือ การปลูกผมในผู้หญิงซึ่งส่วนใหญ่ใช้แก้ปัญหาศีรษะเถิก ปรับกรอบหน้า ผมบาง ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ฯลฯ ซึ่งก็จะมีเทคนิคที่แตกต่างกับคุณผู้ชายเนื่องจากจะมีอาการแสดงที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ การปลูกผมของคุณผู้หญิงมักจะเป็นการปลูกผมที่ผมที่เกิดขึ้นใหม่นั้นต้องมีระยะการเตบโตที่นานขึ้นเพื่อที่จะเลี้ยงผมให้ยาวเพื่อปิดแผลนั่นเอง
ปลูกผมผู้หญิง เหมาะกับใครบ้าง?
การปลูกผมไม่ได้เพียงเป็นแค่การรักษาภาวะ ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน หรือหัวเถิกเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและปรับปรุงบุคลิกภาพอีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากคุณมีคุณสมบัติดังนี้ คุณควรได้รับการรักษาด้วยการปลูกผม
- ผู้ที่มีภาวะศีรษะล้าน
- ผู้ที่มีลักษณะผมที่บาง
- ผู้ที่สูญเสียเส้นผมบางส่วนจากการไฟไหม้ หรืออาการบาดเจ็บที่หนังศีรษะ
- อีกทั้งการปลูกผมยังมักใช้เพื่อช่วยรักษาปัญหาศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ (Andorgenetic Alopecia) ที่เกิดจากการถ่ายทอดยีนศีรษะล้านระหว่างคนในครอบครัว รวมถึงยังใช้ควบคู่กับการรักษาในผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจนทำให้ศีรษะล้าน
โดยผู้เข้ารับบริการแต่ละเคสก็จะได้รับการรักษาที่แตกต่างกันออกไป เพราะแม้จะมีอาการแสดงและระดับความรุนแรงที่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้เข้ารับบริการทุกคนจะสามารถใช้แนวทางและเทคนิคการปลูกผมที่เหมือนกันได้
The PRIME Medical Center มี ปลูกผมผู้หญิง กี่วิธี อะไรบ้าง?
เทคนิคปลูกผมของ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL มีอยู่หลายเทคนิคด้วยกัน โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
1.การปลูกผมเทคนิค FUE
การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่ง ด้วยการย้ายเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยไปปลูกถ่ายยังบริเวณที่ต้องการ เทคนิคนี้เป็นเทคนิคไร้แผลเย็บ ไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว ไม่มีแผลเย็บเหมือนวิธี FUT (Follicular Unit Transplantation) ทั่วไปที่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว (Strip) ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล ที่สำคัญคือไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เนื่องจากเทคนิคนี้จะใช้อุปกรณ์ในการเจาะที่มีขนาดเล็กมาก
แล้วนำเซลล์รากผมออกมาปลูกถ่าย เพื่อให้ได้แนวไรผมที่ต้องการ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังจากที่ทำเสร็จ ใช้ระยเะเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่นำมาปลูกถ่าย วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน ที่ไม่ต้องการใช้เวลาในการพักฟื้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเทคนิคนี้จะเห็นถึงความหนาแน่นของเส้นผมที่เกิดขึ้นมาใหม่ โดยทั่วไปใช้เวลาเห็นผลลัพธ์เต็มที่ประมาณ 6-10 เดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองการรักษาของแต่ละเคสด้วย
2.การปลูกผมเทคนิค Advanced-FUE
การปลูกผมแบบ Advanced-FUE เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นจากเทคนิค FUE เดิม ที่ใช้อุปกรณ์ในการเจาะที่มีขนาดเล็กกว่ามาก ขั้นตอนที่ทำเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือความหนาแน่นที่มากกว่า ได้แนวไรผมที่ชิดมากกว่า เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังจากทำเสร็จ ส่วนระยะเวลาที่ใช้นั้นจะมากกว่าแบบ FUE ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
เทคนิคนี้ใช้ทักษะที่สูงกว่า และขั้นตอนที่ซับซ้อนขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ความหนาแน่นมากขึ้น ที่สำคัญยังคงไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นมากเช่นกัน ทั้งนี้ เทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ Hi Density เรียกได้ว่าเห็นความแตกต่างจากเทคนิค FUE ได้อย่างชัดเจน ใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ประมาณ 6-10 เดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองการรักษาของแต่ละเคสเช่นเดียวกัน
3.การปลูกผมเทคนิค DHI
การปลูกผมแบบ DHI หรือ Direct Hair Implantation เป็นวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมสูงในขณะนี้ โดยแพทย์จะใช้กราฟ หรือกอผม 1-4 เส้นบริเวณท้ายทอย โดยใช้เครื่องมือ DHI Implanter กราฟในการดึงออกมาจากท้ายทอยและกราฟที่ปักออกไปสามารถทำได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาทำแยกสองขั้นตอนเหมือนวิธี FUE
ส่งผลให้ลดปัญหารากผม และเซลล์รากผมเกิดความเสียหายระหว่างปลูกผมได้เป็นอย่างดี รวมถึงผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ดูกลมกลืนไปทั้งศีรษะ เนื่องจากเครื่องมือดังกล่าวจะสามารถควบคุมทิศทาง ความลึก และมุมองศาในการปลูกได้แม่นยำ โดยทั่วไปอาจจะใช้เทคนิคนี้ร่วมกับการปลูกผมแบบ Advanced-FUE เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม และเหมาะกับแต่ละบุคคลได้อย่างดี โดยเทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ High Density โดยที่ได้เรื่องแนวไรผมที่สวยงาม เน้นความเป็นธรรมชาติ และมาตรฐานที่สูงขึ้นด้วย
4.การปลูกผมแบบ NHI
การปลูกผมแบบ NHI (Navamin Hair Transplant) เป็นเทคนิคเดียวในประเทศ ที่เป็นวิธีการเฉพาะของโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ที่ได้รับมาตรฐานจากองค์กรระดับโลก JCI โดยเทคนิคนี้จะคล้ายคลึงกับการปลูกผมแบบ DHI แต่จะใช้เทคนิคการเจาะ และการปลูกถ่ายจากประเทศเกาหลี รวมถึงเครื่องมือ Implanter ระดับ Hi-End ซึ่งนอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในแง่ของ เซลล์รากผมที่ไม่บอบช้ำ มีอัตราการรอดหลังการปลูกถ่ายสูงที่สุด ยังได้ในส่วนของการดูแลหลังการปลูกที่ง่ายกว่า แผลหายเร็วกว่าอีกด้วย
ทั้งนี้ ยังมีผลลัพธ์ที่แน่นอนกว่าแบบเห็นได้ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ปราณีตที่สุด ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดูแลง่ายที่สุด และมีมาตรฐานสูงที่สุดในบรรดาการปลูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ โดยแพทย์ที่ทำการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ จะต้องมีความเข้าใจในความเป็นธรรมชาติของแนวไรผมของคนไข้ และการวาดแนวกรอบหน้าให้เหมาะสม และใส่ใจในทุก ๆ ขั้นตอนการปลูกทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง เทคนิคนี้จะได้ความหนาแน่นแบบ Ultra High Density ได้แนวไรผมที่สวยงามมากที่สุด เป็นธรรมชาติมากที่สุด และได้มาตรฐานที่สูงที่สุดอีกด้วย
ถ้าไม่ใช่ “ปลูกผม” คุณผู้หญิงรักษาด้วยวิธีไหนได้อีก?
โดยส่วนใหญ่ แพทย์จะเลือกใช้วิธีเหล่านี้กับคุณผู้หญิงที่ยังพอมีเส้นผมอยู่บ้าง หรือพอจะยังเหลือเซลล์รากผมที่แข็งแรงอยู่และบำรุงได้โดยไม่ต้องปลูกผมใหม่ ซึ่งวิธีต่าง ๆ ดังกล่าว เช่น
การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย MESO Hair
เป็นการผลักตัวยา และวิตามินเข้าบำรุงเซลล์รากผม เหมาะกับผู้ที่มีภาวะผมบางหลุดร่วง ส่วนมากเกิดจากความเครียด, การเจ็บป่วย, การดัดย้อมด้วยเคมีที่รุนแรง เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ซึ่ง MESO Hair เป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะ ทำให้เซลล์รากผมได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่
การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย โปรตีนขนาดเล็ก Exosome
วิธีนี้เป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ใช้องค์ประกอบของโปรตีน ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของโปรตีนประมาณ 30-100 นาโนเมตร ทำให้เกิดการกระตุ้น ฟื้นฟู และมีการซ่อมแซมเซลล์รากผมได้อย่างดีเยี่ยม
การทำ PRP (Platelet Rich Plasma) หรือ Hair Therapy
เป็นการซ่อมแซมเซลล์รากผมที่อ่อนแอ ให้กลับแข็งแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการทำ PRP นี้ถือเป็นการปลูกผมในรูปแบบหนึ่ง กับคนไข้ที่มีภาวะปัญหาผมบาง และหลุดร่วงง่ายแต่จะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้กับบริเวณที่ไม่มีผมขึ้นมาเลย หรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาหัวล้านได้นั่นเอง
วิธีอื่น ๆ และการใช้ผลิตภัณฑ์จากทางการแพทย์
จากวิธีที่ได้กล่าวไปทั้งหมด รวมถึงการปลูกผมเทคนิคต่าง ๆ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาสำหรับคุณผู้หญิงมีภาวะผมบางเท่านั้น โดยยังมีอีกหลายหลายวิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับ อาการ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและประเมิน เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะเป็น 3 อย่างนี้ หรือ วิธีอื่น ๆ ก็เป็นได้ เช่น ยา วิตามิน อาหารเสริม สเปรย์ เซชั่น แชมพู ฉายแสง การฉีดตัวยาอื่น ๆ หรือทรีตเม้นท์อื่น ๆ ด้วย เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ขอย้ำอีกครั้งว่า การปลูกผมนั้นสามารเป็นแนวทางการรักษาที่สามารถช่วยลดปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้านได้ แต่ในกรณีหัวล้านนั้นต้องพิจารณาจากสาเหตุด้วย เนื่องจากภาวะศีรษะล้านที่มาจากกรรมพันธุ์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น การปลูกผมสำหรับคุณผู้หญิงที่มีปัญหามาจากสาเหตุนี้อาจเพียงช่วยบรรเทาอาการเท่านั้น ดังนั้น สำหรับคุณผู้หญิงท่านใดที่ประสบปัญหาสูญเสียผมหรือสงสัยว่ามีภาวะศีรษะล้านอยู่หรือไม่ ควรเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเพื่อเข้ารับการรักษาต่อไปจะดีที่สุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ผมข้างหน้าบางทำไง รักษาวิธีไหนได้ผลที่สุด
ยืดผมแล้วผมร่วง เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่?
ถอนผมหงอกทำหัวล้านไหม แก้ไขอย่างไรดี?
ทำไมต้องปลูกผมที่ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL
เพราะปลูกผมในโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลนวมินทร์9 ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล JCI, USA โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม และบุคลากรทางการแพทย์ด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ดังนั้น ผู้เข้ารับบริการจึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยเพราะทำในโรงพยาบาลที่ได้รับรองมาตรฐานสากลระบบโลก JCI ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ด้วยความชำนาญจากแพทย์ดังที่ได้กล่าวไป จึงส่งผลให้มีผลข้างเคียงน้อยตามไปด้วย ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น ไม่ต้องนอนค้างโรงพยาบาล พร้อมทั้งการรับประกัน 1 ปีเต็ม ติดตามอาการและดูแลต่อเนื่องหลังการปลูกผมไม่มีค่าใช้จ่าย ปลูกไม่ขึ้น ปลูกให้ใหม่ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องทำซ้ำ อยู่กับเราไปตลอด เส้นผมขึ้นใหม่เป็นเส้นผมจริงตามธรรมชาติ ที่แข็งแรงเนื่องจากเป็นเส้นผมจากบริเวณท้ายทอยซึ่งเป็นเส้นผมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน หลุดร่วงช้ากว่าวงจรปกติ บริการ ปลูกผม เส้นผมและหนังศีรษะ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL1). The PRIME สาขา โรงพยาบาลนวมินทร์9
Facebook: The PRIME Medical Center โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 (www.facebook.com/theprimenavamin9)
Instagram: the.prime.medical (www.instagram.com/the.prime.medical)
Tiktok: the.prime.medical (www.tiktok.com/@the.prime.medical)
TEL: 095-750-5555
Line OA: @the.prime (https://lin.ee/JjTrppd)
2). The PRIME พระโขนง
Facebook: The PRIME Medical Center สาขา summer hill พระโขนง (www.facebook.com/the.prime.summerhill)
Instagram: the.prime.sukhumvit (www.instagram.com/the.prime.sukhumvit)
Tiktok: the.prime.medical (www.tiktok.com/@the.prime.medical)
TEL: 082-479-4666
Line OA: @the.prime (https://lin.ee/JjTrppd)