Vital Glow Centre

TH

ผมร่วงวันละกี่เส้น ร่วงแค่ไหนถึงผิดปกติและต้องเข้าพบแพทย์

ผมร่วงวันละกี่เส้น? แม้จะเป็นอาการที่ทุก ๆ คนต้องพบเจอ แต่คำถามดังกล่าวก็ยังคงเป็นประเด็นที่หลาย ๆ คนสงสัยและต้องการทราบคำตอบให้ได้ว่า แท้จริงแล้วผมของคนเราสามารถร่วงได้วันละกี่เส้น ที่ร่วงอยู่ทุกวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือเป็นเรื่องผิดปกติกันแน่ แล้วถ้าหากร่วงเยอะจนผิดปกติมันเกิดจากอะไรและต้องรักษาอย่างไร วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันว่าอาการผมร่วงมีเรื่องน่ารู้อะไรบ้าง?

ผมร่วงวันละกี่เส้น-normal-daily-hairfall

ผมร่วงวันละกี่เส้น ถึงเรียกว่าผิดปกติ หากร่วงมากไปจะแก้ไขยังไงได้บ้าง?

จากที่ได้กล่าวไปว่าปัญหาผมร่วงถือเป็นปัญหาสามัญที่มุกคนต้องเจอในทุกเพศและทุกวัย โดยจะร่วงมากหรือน้อยก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละคน โดยอาจขึ้นอยู่กับภาวะทางร่างกายและพฤติกรรมต่อเส้นผมของแต่ละคนนั่นเอง ซึ่งก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจหรือศึกษาอาการผมร่วง เรามาทำความรู้จักกับวงจรชีวิตของเส้นผมของเรากันก่อน

วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม

สำหรับวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมของมนุษย์เรานั้น ไม่ได้มีความยุ่งยากและซับซ้อนเกินเข้าใจ ซึ่งหากแบ่งออกให้เข้าใจได้ง่าย ๆ จะมีเพียงแค่ 3 ระยะเท่านั้น คือ ระยะเจริญ ระยะพัก และระยะเปลี่ยนสภาพ

ระยะเจริญ

ต่อมรากผมจะสร้างเซลล์ซึ่งทำให้เส้นผมงอกขึ้น ยาวขึ้น ช่วงเวลานี้จะอยู่ระหว่าง 3- 7 ปีด้วยกันและจะก้าวเข้าสู่ระยะพักต่อไปซึ่งจะเป็นระยะการหยุดเจริญเติบโตของเส้นผมนั่นเอง

ระยะพัก

ระยะนี้จะกินเวลาไม่นานนัก จะเป็นช่วงสั้นๆที่ปลายของรากผมจะเคลื่อนตัวสู่ชั้นผิวหนัง เส้นผมจะเติบโตช้าลงและค่อยๆหยุดที่จะเติบโตไปในที่สุด

ระยะเปลี่ยนสภาพ

จะเป็นช่วงที่รอการผลัดเปลี่ยนจากเซลล์รากผมที่ตายแล้วเกิดขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเป็นการที่เซลล์รากผมใหม่ ๆ จะทำการเคลื่อนตัวไปยังบริเวณผิวหนังเพื่อผลักให้เส้นผมที่ตายแล้วได้หลุดร่วงออกไป ในกรณีทั่วไปเส้นผมจะร่วงโดยประมาณ 50 ถึง100 เส้นต่อวัน ซึ่งเส้นผมเก่า ๆ ที่ถูกผลักออกก็ถือเป็นเส้นผมที่ร่วงในแต่ละวันนั่นเอง

ผมร่วงแบบปกติ ร่วงวันละกี่เส้นกันแน่?

โดยปกติผมของคนเรามีประมาณ 80,000-1,200,000 เส้น งอกยาวขึ้นประมาณวันละ 0.35 มิลลิเมตรและมีอายุนาน 2-6 ปี ซึ่งปกติจะมีผมร่วงเป็นประจำทุกวัน แต่ไม่เกินวันละ 30-50 เส้น ซึ่งหากมากกว่านี้ถือว่ามีอาการผิดปกติและต้องเข้าพบแพทย์ เพราะผมร่วงผิดปกติอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุซึ่งมีทั้งที่เราสามารถคาดเดาได้และไม่ได้ ดังนั้น จึงควรรีบเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาต้นตอที่แท้จริงและแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด

ผมร่วง เกิดจากอะไรได้บ้าง?

สำหรับปัญหา “ผมร่วง” นั้น แม้จะดูเป็นเรื่องปกติของร่างกายเราที่เมื่อเริ่มอายุมากขึ้น ความแข็งแรงของรากผมก็จะเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา แต่ทุกคนทราบหรือไม่ว่าสาเหตุของการเกิดผมร่วงเกิดได้จากอีกหลาย ๆ ปัจจัยด้วยกัน เช่น…

  • ประวัติครอบครัวที่มีศีรษะล้านหรือผมร่วง แก่ก่อนวัย / ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
  • ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูงหรือต่ำเกินไป
  • ยาบางชนิด อาการแพ้ยา
  • ความเครียด
  • การบิดม้วนและดึงผมที่เกิดจากปัญหาทางจิตใจ

ซึ่งสาเหตุหรือปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประสบปัญหาต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรักษาได้อย่างตรงจุดนั่นเอง

วิธีรักษาผมร่วง ผมขาด สูญเสียผม ด้วยตนเอง

เชื่อได้ว่าผู้ที่ประสบปัญหาผมร่วงหลาย ๆ คนอยากจะบรรเทาอาการนี้ด้วยตนเองให้ได้มากที่สุดเสียก่อน ก่อนที่จะเข้าพบแพทย์ ซึ่งหากถามว่าการลดปัญหาวิธีรักษาปัญหาผมร่วงด้วยตนเองนั้นต้องเริ่มยังไง คำตอบคือ ต้องเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะสูญเสียเส้นผมนั่นเอง เช่น…

  • ความร้อนและสารเคมีทำให้ผมร่วง เพราะเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ จะทำให้เส้นผมเกิดการแห้งเสีย ชี้ฟู และแตกปลาย ทั้งยังทำให้รากผมอ่อนแอ ผมร่วง ส่วนความร้อนจากไดร์เป่าผมก็ทำให้หนังศีรษะแห้ง เกิดอาการคัน และขาดความชุ่มชื้น จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมหลุดร่วง
  • สระผมบ่อยเกินไป แม้การทำความสะอาดหนังศีรษะให้สะอาดจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ทุกคนทราบหรือไม่ว่าการสระผมบ่อย ๆ ก็ทำให้ผมร่วงได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เนื่องจากแชมพู หรือ ครีมนวด นั้นก็ถือว่าเป็นสารเคมีเช่นเดียวกัน ทั้งนี้การสระผมบ่อย ๆ อาจทำให้หนังศีรษะเกิดความระคายเคือง อาการคันและรังแคได้ การที่ผมจะหลุดร่วงง่ายก็ไม่แปลก
  • รับประทานอาหารรสจัด หลายคนอาจจะสงสัยว่ารสชาติของอาหารมีผลต่อเส้นผมอย่างไร เหตุผลคือรสชาติที่มีรสชาติที่จัดเกินไปนั้นทำให้ร่างกายของเรามีความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลให้เส้นเลือดหดตัว และส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น จึงอาจเป็นเหตุให้ร่างกายส่งเลือดไปเลี้ยงรากผมได้น้อย ทำให้ผมอ่อนแอ และเกิดอาการผมร่วงได้ในที่สุดนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม แม้พฤติกรรมดังกล่าว แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ดูเหมือนไม่ส่งผลอะไรมาก แต่เพราะมันเป็นเรื่องเล็ก ๆ นี่เอง เราจึงต้องใส่ใจ ซึ่งหากลองปรับหรือลดได้ ก็อาจช่วยบรรเทาการหลุดร่วงของเส้นผมได้เช่นกัน

ผมร่วง แก้ยังไง มีเทคนิคทางการแพทย์อะไรบ้าง?

เทคนิคจาก The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL สามารถแบ่งได้เป็น 3 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้

การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย PRP

การทำ PRP (Platelet Rich Plasma) หรือ Hair Therapy เป็นการซ่อมแซมเซลล์รากผมที่อ่อนแอ ให้กลับแข็งแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการทำ PRP นี้ถือเป็นการปลูกผมในรูปแบบหนึ่ง กับคนไข้ที่มีภาวะปัญหาผมบาง และหลุดร่วงง่ายแต่จะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้กับบริเวณที่ไม่มีผมขึ้นมาเลย หรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาหัวล้านได้นั่นเอง โดย PRP แพทย์จะทำการฉีดไปบริเวณส่วนที่ต้องการการฟื้นฟู และยังช่วยกระตุ้นเซลล์รากผมที่หยุดทำงาน ให้กลับมาสร้างเส้นผมได้พร้อมบำรุงให้เกิดความแข็งแรง ผลลัพธ์ที่ออกมาจะสามารถเห็นความหนาแน่นของเส้นผมเพิ่มขึ้นได้ด้วยตาเปล่า นอกจากนี้ PRP ยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไร้สารเคมี ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้งพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ นับว่าเป็นทางเลือกในการรักษาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และสามารถทำควบคู่กับการปลูกผม FUE/DHI/NHI ฯลฯ ได้อีกด้วย

การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย MESO Hair

การทำ MESO Hair เป็นการผลักตัวยา และวิตามินเข้าบำรุงเซลล์รากผม เหมาะกับผู้ที่มีภาวะผมบางหลุดร่วง ส่วนมากเกิดจากความเครียด, การเจ็บป่วย, การดัดย้อมด้วยเคมีที่รุนแรง เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ซึ่ง MESO Hair เป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะ ทำให้เซลล์รากผมได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ เสริมสร้างการเกิดใหม่ของเส้นผมและชะลอการหลุดร่วงให้เส้นผมมีอายุยืนยาวมากขึ้น ระยะเวลาในการทำสองสัปดาห์ต่อครั้ง และส่วนมากจะเริ่มเห็นผลในเดือนที่ 2-3 เป็นต้นไป

การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วย โปรตีนขนาดเล็ก Exosome

วิธีนี้เป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ใช้องค์ประกอบของโปรตีน ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของโปรตีนประมาณ 30-100 นาโนเมตร หรือมีขนาดที่เล็กกว่าเซลล์ในร่างกายเราถึง 1/1,000 เท่า ใน Exosome จะประกอบไปด้วยสารชีวโมเลเกุลมากมาย อาทิเช่น Cytokines, Growth factors, Micro RNA ฯลฯ ที่มากกว่า PRP 1,000 เท่าตัว ทำให้เกิดการกระตุ้น ฟื้นฟู และมีการซ่อมแซมเซลล์รากผมได้อย่างดีเยี่ยม

วิธีรักษาสำหรับผู้ประสบปัญหาผมบาง
ตัวอย่างขั้นตอนการรักษาผมร่วง ผมบาง แบบ PRP

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาสำหรับผู้มีภาวะผมบางเท่านั้น โดยยังมีอีกหลายหลายวิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับ อาการ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและประเมิน เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะเป็น 3 อย่างนี้ หรือ วิธีอื่นๆ
ก็เป็นได้ เช่น การปลูกผมถาวร ยา วิตามิน อาหารเสริม สเปรย์ เซชั่น แชมพู ฉายแสง การฉีดตัวยาอื่น ๆ หรือทรีตเม้นท์อื่น ๆ ด้วย เป็นต้น ซึ่งวิธีต่าง ๆ ที่กล่าวมาจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์ทั้งสิ้นเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการและผลลัพธ์ที่คาดหวัง

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ผมข้างหน้าบางทำไง รักษาวิธีไหนได้ผลที่สุด

ปลูกผม FUE VS ปลูกผม FUT ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่ากัน?

ผมบางกลางหัวเกิดจากอะไร รักษาหายไหม เสี่ยงหัวล้านหรือเปล่า?



ทำไมต้องปลูกผมที่ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL

เพราะปลูกผมในโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลนวมินทร์9 ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล JCI, USA โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม และบุคลากรทางการแพทย์ด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ดังนั้น ผู้เข้ารับบริการจึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยเพราะทำในโรงพยาบาลที่ได้รับรองมาตรฐานสากลระบบโลก JCI ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ด้วยความชำนาญจากแพทย์ดังที่ได้กล่าวไป จึงส่งผลให้มีผลข้างเคียงน้อยตามไปด้วย ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น ไม่ต้องนอนค้างโรงพยาบาล พร้อมทั้งการรับประกัน 1 ปีเต็ม ติดตามอาการและดูแลต่อเนื่องหลังการปลูกผมไม่มีค่าใช้จ่าย ปลูกไม่ขึ้น ปลูกให้ใหม่ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องทำซ้ำ อยู่กับเราไปตลอด เส้นผมขึ้นใหม่เป็นเส้นผมจริงตามธรรมชาติ ที่แข็งแรงเนื่องจากเป็นเส้นผมจากบริเวณท้ายทอยซึ่งเป็นเส้นผมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน หลุดร่วงช้ากว่าวงจรปกติ บริการ ปลูกผม เส้นผมและหนังศีรษะ The PRIME Medical Center by NAVAMIN9 HOSPITAL

1). The PRIME สาขา โรงพยาบาลนวมินทร์9
Facebook: The PRIME Medical Center โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 (www.facebook.com/theprimenavamin9)
Instagram: the.prime.medical (www.instagram.com/the.prime.medical)
Tiktok: the.prime.medical (www.tiktok.com/@the.prime.medical)
TEL: 095-750-5555
Line OA: @the.prime (https://lin.ee/JjTrppd)

2). The PRIME พระโขนง
Facebook: The PRIME Medical Center สาขา summer hill พระโขนง (www.facebook.com/the.prime.summerhill)
Instagram: the.prime.sukhumvit (www.instagram.com/the.prime.sukhumvit)
Tiktok: the.prime.medical (www.tiktok.com/@the.prime.medical)
TEL: 082-479-4666
Line OA: @the.prime (https://lin.ee/JjTrppd)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า